วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทินครั้งที่ 3



บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย  (EAED3208)
อาจารย์ผู้สอน  ว่าที่ร้อยตรีกฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
 ครั้งที่ 5 วันที่ 28  มกราคม 2558
เวลาเรียน  08:30-10:10 น. เวลาเข้าเรียน 08.30 น. เวลาเลิกเรียน 10.10 น.

     สิ่งที่ได้เรียนวันนี้
หลักการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
ความสำคัญ
ศิลปะ เป็นพื้นฐานทางการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย เพราะศิลปะ ช่วยให้เด็กปฐมวัยมีประสบการณ์ที่หลากหลาย
-ประสบการณ์ด้านการสำรวจ ตรวจสอบ  (สังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว)
-ประสบการณ์ด้านวัสดุ-อุปกรณ์  (เรียนรู้การใช้เครื่องมือต่างๆ)
-ประสบการณ์ทางด้านความรู้สึก และการใช้ประสาทสัมผัส
     ประสบการณ์เหล่านี้เป็นประสบการณ์ตรง ที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เผชิญ  กับความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับคน  สัตว์  พืช  สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ

จุดมุ่งหมายในการสอนศิลปะเด็กปฐมวัย
การสอนศิลปะเด็ก ไม่ใช่การสอนให้เด็กวาดรูปเก่ง การสอนศิลปะเด็ก เป็นการปลูกฝังนิสัยอันดีงาม ละเอียดอ่อน และให้มีความพร้อมสำหรับการศึกษาในระดับสูงขึ้นต่อไป การสอนศิลปะเด็กจึงมีจุดมุ่งหมาย  เพื่อ
๑.  ฝึกทักษะการใช้มือและเตรียมความพร้อม   ผ่านการใช้ประสาทสัมผัส  ทั้ง ๕
๒. ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ + ความสามารถของเด็กแต่ละคน
๓. พัฒนาทางร่างกาย อารมณ์  สังคม  สติปัญญาและบุคลิกภาพ
๔.  ปลูกฝังค่านิยม เจตคติ และคุณสมบัติที่ดีของศิลปะ และวัฒนธรรมไทย
๕.  ฝึกให้เด็กได้เริ่มต้นเรียนรู้การใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ในการทำงานศิลปะ  ตลอดจนรู้จักเก็บรักษา และทำความสะอาดอย่างถูกต้อง
๖.   ฝึกการทำงานร่วมกันเป็นทีม
๗.  เปิดโอกาสให้เด็กแสดงออกอย่างอิสระ ผ่อนคลาย  สนุกสนาน และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
๘.  นำประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

บทบาทของครูศิลปะ
ครู คือบุคคลสำคัญที่สุดในการจัดการเรียนการสอนศิลปะ
- เป็นผู้สร้างบรรยากาศ   ( ในการประดิษฐ์  คิดค้น และผลิตผลงาน)
- เป็นผู้ส่งเสริม สนับสนุน   (พูดคุย  ชักจูง เร้าความสนใจ  ให้กำลังใจ)
เป็นผู้ดูแลเด็กให้สร้างสรรค์งาน  ( ให้ความรัก ความอบอุ่น  เป็นกันเอง และคอยให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ)
 - เป็นต้นแบบที่ดี  (สาธิตวิธีการที่ถูกต้อง  ไม่เผด็จการ ส่งเสริมการกล้าคิด กล้าตัดสินใจ)
 - เป็นผู้อำนวยความสะดวก   (จัดเตรียมวัสดุ-อุปกรณ์  รูปแบบศิลปะหลากหลาย)

บทบาทของครู  ( เลิศ  อานันทะ : 2533 )
๑.   สอนด้วยใจรัก และเอาใจใส่
๒.  ยอมรับความสามารถเด็กแต่ละคน
๓.  เปิดโอกาสและให้อิสระเด็กในการสร้างผลงาน ไม่รีบร้อนแก้ไขงาน 
๔.  ไม่แทรกแซงความคิดเด็ก หรือแก้ปัญหาแทนเด็ก แต่ส่งเสริมให้เด็กกล้าคิด กล้าทำ และกล้าแสดงออก
๕.  กระตุ้น ยั่วยุ ท้าทายให้เด็กแสดงออกอย่างเต็มความสามารถ
๖.  มีการวางแผน + จัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ล่วงหน้าพร้อมทำกิจกรรม

ข้อควรคำนึงในการสอนศิลปะเด็กปฐมวัย
๑. หลีกเลี่ยงการให้แบบ การวาดภาพตามรอยปะ หรือใช้สมุดภาพระบายสี เพราะทำให้เด็กสูญเสียความคิดสร้างสรรค์
๒. ต้องช่วยพัฒนาความเป็นตัวของตัวเองให้แก่เด็ก ให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจ   ใช้คำพูดทางบวก เช่น หนูทำได้...ลองทำดูสิ
๓.ไม่บีบบังคับหรือคาดคั้นเอาความหมายจากภาพ  ให้เด็กพูดคุยอย่างสบายใจ และเข้าใจในผลงานของตนเอง
๔.ไม่แก้ไขหรือช่วยเด็กทำผลงาน เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์และผู้ช่วยเหลือ
๕.ไม่วิจารณ์งานศิลปะเด็ก และมีวิธีการประเมินงานที่เหมาะสม
๖. มีส่วนในการช่วยให้ผู้ปกครองเห็นคุณค่าของงานเด็ก
๗. มีส่วนช่วยขยายประสบการณ์ทางศิลปะชองเด็ก ไม่อยู่แต่ในห้องเรียน  ควรพาเด็กออกสำรวจ  สัมผัส  สังเกต  ทัศนศึกษา เยี่ยมชมงานศิลปะตามแหล่งต่างๆ

การเตรียมการสำหรับการสอนศิลปะเด็กปฐมวัย
-การสร้างข้อตกลง และระเบียบการใช้วัสดุ อุปกรณ์
-การจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ให้เพียงพอ
-การจัดวางวัสดุ อุปกรณ์ให้สะดวกแก่การใช้งาน
-การจัดเตรียมเครื่องมือรักษาความสะอาด (ฟองน้ำ  ผ้าเช็ดมือ  ถังขยะถังน้ำ)
-การจัดเตรียมพื้นที่ในการทำงานอย่างเหมาะสม และเพียงพอ
-การจัดเก็บผลงาน  / การจัดสถานที่แสดงผลงาน

ลำดับขั้นตอนการสอนศิลปะเด็กปฐมวัย
- ขั้นตอนการสอนศิลปะ
๑. เลือกเรื่องที่จะสอน
๒ .กำหนดจุดมุ่งหมายในการสอน
๓. เตรียมการก่อนสอน
- เตรียมแผนการสอน  - เรื่อง  จุดประสงค์  เนื้อหา  ระยะเวลา  สื่อการสอน  จำนวนเด็ก  จำนวนกิจกรรม  สถานที่
- เตรียมอุปกรณ์การสอน
๔.  ทดลองและตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนลงมือสอนจริง
๕.  ทำการสอนจริงตามแผน
๖.  เตรียมตัวเด็กให้พร้อมก่อนการลงมือทำผลงาน เช่น การแบ่งกลุ่มเด็ก  การให้เด็กสวมผ้ากันเปื้อน  การปฏิบัติตามข้อตกลง
๗.  การปฏิบัติงานของเด็ก โดยมีครูเป็นผู้ดูแล  แนะนำ  ช่วยเหลือ ตลอดจนเขียนชื่อ และจดบันทึกข้อมูล
๘.  การเก็บ การรักษา และการทำความสะอาด
๙.  การประเมินผลงานเด็ก

เทคนิควิธีสอนศิลปะเด็กปฐมวัย
การสอนศิลปะเด็กให้ดีและประสบผลสำเร็จ
-เข้าถึง   ดูแล  เอาใจใส่ ใกล้ชิดเด็กแต่ละคนอย่างเท่าเทียม
-เข้าใจ  ความสามารถ  ความแตกต่างระหว่างบุคคล
-ให้ความรัก  รักและเข้าใจ สนับสนุนและพัฒนา  ช่วยเหลือ
-สร้างสรรค์บรรยากาศ หลากหลาย สนุกสนาน อิสระ
-มีระเบียบวินัย มีข้อตกลงร่วมกัน และปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยในการทำงาน
-ปลอดภัย  คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

การสอนให้เด็กมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
-เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกอย่างเสรี  มีอิสระในการสร้างสรรค์งาน
-ฝึกหัดให้เกิดการเรียนรู้   ทดลองด้วยตนเอง  ลองผิดลองถูก
-เรียนรู้การวางแผนงานและแก้ไขปัญหา
-ส่งเสริมการแสดงออกอย่างหลากหลายรูปแบบ
-เน้นการเรียนปนเล่น
-สนับสนุน/เน้นเรื่องคุณค่าความงาม  ความดี
     
     กิจกรรมสุดท้ายอาจารย์ให้การบ้านของวันพฤหัสด้วย แจกกระดาษ 3 ใบให้ไปทำส่งอาทิตย์หน้า แล้วให้ไปดูวีโอ สอนศิลป์ในยูทูป 

ตัวอย่างการบ้าน























การประเมินหลังการเรียน
          ตนเอง  วันนี้เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจฟังอาจารย์สอนและที่อาจารย์อธิบายรายละเอียดต่างๆ มีการแสดงความคิดเห็นร่วมกับอาจารย์
           เพื่อน วันนี้เพื่อนๆเข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจฟังอาจารย์และแสดงความคิดเห็นต่างๆภายในชั้นเรียน
           อาจารย์ วันนี้อาจารย์ได้สอนเรื่อง หลักการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย ยกตัวอย่างให้นักศึกษาทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น อาจารย์ได้ให้ดูตัวอย่างผลงานของรุ่นพี่อีกด้วย



วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทินครั้งที่ 2


บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย  (EAED3208)
อาจารย์ผู้สอน   ว่าที่ร้อยตรีกฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
 ครั้งที่ 3,4 วันที่ 21,22  มกราคม 2558

เวลาเรียน  08:30-10:10 น. เวลาเข้าเรียน 08.30 น. เวลาเลิกเรียน 10.10 น.


         สิ่งที่ได้เรียนวันนี้
    อาจารย์ได้แจกกระดาษให้คนละ1แผ่น โดยมีกติกาให้วาดมือของตัวเราเองแบบสร้างสรรค์ จะเน้นมือที่ซับซ้อนกันให้มากที่สุด เพื่อมองดูแล้วจะเป็นภาพ3มิติ และให้ระบายสีอย่างที่ต้องการ ยกเว้นบริเวณที่เป็นทับซ้อนกันหรือช่องๆ ให้ระบายเป็นสีอื่น เพื่อจะได้มองเห็นชัดเจนขึ้น โดยให้เวลาในการทำงานชิ้นนี้เป็นเวลา1ชั่วโมง เมื่อใครทำเสร็จอาจารย์ก็ให้คนที่เสร็จเอาผลงานไปแปะติดบนกระดานจนครบทุกคน

ภาพดังนี้





          เมื่อทุกคนติดผลงานเสร็จแล้ว อาจารย์ก็ให้ดูผลงานของตัวเองและของเพื่อนในห้อง เมื่อดูเสร็จก็ให้ออกไปแกะผลงานของตัวเองที่หน้ากระดานออก แล้วไปติดใหม่ที่บอร์ดข้างกระดานดำ เพื่อเวลาไปสอนเด็กจะได้เอาผลงานเด็กไปติดบอร์ดหรือทำเป็นหน่วยหรือจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อีกด้วย

ภาพดังนี้



    ศิลปะ แต่เดิมหมายถึง งานช่างฝีมือ เป็นงานที่มนุษย์ใช้สติปัญญาสร้างสรรค์ขึ้นด้วย ความประณีต  วิจิตรบรรจง ฉะนั้น  งานศิลปะจึงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็น ผลงานที่มนุษย์ใช้ปัญญา ความศรัทธา และความพากเพียรพยายามสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่
-ความงาม  (ทางกาย,ทางใจ)
-รูปทรง
-การแสดงออก
"ศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์
เพื่อให้เกิดความงาม และความพึงพอใจ

ปรัชญาศิลปศึกษา
-มุ่งสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์
-เป็นเครื่องมือในการแสดงออก และใช้ความคิดสร้างสรรค์
-ให้ความสำคัญกับ กระบวนการสร้างสรรค์งาน
-เน้นความไวในการรับรู้ด้านอารมณ์ ความคิดจากสิ่งที่มองเห็น
-ความรู้สึกที่มีอยู่เบื้องหลังผลงาน       
-สนับสนุนให้เรียนรู้ ด้วยการค้นคว้า ทดลองสิ่งใหม่ๆ
-นำไปใช้พัฒนาชีวิตด้านอื่นๆได้
ความสำคัญของศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
ตอบสนองความต้องการของเด็กปฐมวัย
- เด็กชอบวาดรูป  ขีดๆเขียนๆ
- เด็กมีความคิด  จินตนาการ
- เด็กใช้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ที่บางครั้งไม่สามารถ พูด อธิบายได้
- เด็กต้องการการสนับสนุนจากผู้ใหญ่
- เด็กต้องการกำลังใจ การสร้างความเชื่อมั่น และความภาคภูมิใจ
ความสำคัญของการจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
เป็นพื้นฐานทางการศึกษาที่สำคัญสำหรับเด็กปฐมวัย
- ร่างกาย  อารมณ์-จิตใจ  สังคม   สติปัญญา
ช่วยจัดสรรประสบการณ์ที่มีผลต่อการเรียนรู้ให้กว้างมากขึ้น
- กระบวนการทางศิลปะจะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ตนเองและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นตามวัย
ช่วยพัฒนาเด็กเป็นรายบุคคล
ช่วยเสริมสร้าง / กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

ทฤษฎีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ด
นักจิตวิทยาชาวอเมริกันศึกษาเกี่ยวกับการวิเคราะห์ ตัวประกอบของสติปัญญา
- เน้นเรื่องความคิดสร้างสรรค์
- ความมีเหตุผล
- การแก้ปัญหา
กิลฟอร์ด  อธิบายความสามารถของสมองออกเป็น 3  มิติ คือ
มิติที่ 1 เนื้อหา  มิติเกี่ยวกับ ข้อมูล หรือ สิ่งเร้าที่เป็นสื่อในการคิดสมอง รับข้อมูลเข้าไปคิดพิจารณา   4   ลักษณะ
- ภาพ
- สัญลักษณ์
 - ภาษา
 - พฤติกรรม
มิติที่ 2 วิธีการคิด มิติที่แสดงลักษณะการทำงานของสมองใน   ลักษณะ
- การรู้จัก การเข้าใจ
- การจำ
- การคิดแบบอเนกนัย  (คิดได้หลายรูปแบบ  หลากหลาย)
- การคิดแบบเอกนัย  (ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุด)
- การประเมินค่า
มิติที่ 3  ผลของการคิด  มิติที่แสดงถึงผลที่ได้จากการทำงานของสมอง  จากมิติที่ 1 + มิติที่ 2
มี  6  ลักษณะ
-  หน่วย
-  จำพวก
-  ความสัมพันธ์
-  ระบบ
-  การแปลงรูป
-  การประยุกต์
สรุป
- เป็นทฤษฎีเกี่ยวกับโครงสร้างทางสติปัญญา
- ทำให้ทราบความสามารถของสมองที่แตกต่างกันถึง 120  ความสามารถตามแบบจำลองโครงสร้างทางสติปัญญาในลักษณะ 3 มิติ  คือ มีเนื้อหา  4  มิติ วิธีการคิด  5  มิติ     และผลทางการคิด  6  มิติ  รวมความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ด้วย   คือ วิธีการคิดอเนกนัย  เป็นการคิดหลายทิศทาง  หลายแง่หลายมุม คิดได้กว้างไกล  ซึ่งลักษณะความคิดนี้จะนำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งแปลกใหม่

ทฤษฎีความคิดสร้างสรรค์ของทอร์แรนซ์ (Torrance)
นักจิตวิทยาและนักการศึกษาผู้มีชื่อเสียง  ชาวอเมริกัน เสนอแนวคิดเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ว่า ประกอบด้วย
- ความคล่องแคล่วในการคิด
- ความยืดหยุ่นในการคิด
- ความริเริ่มในการคิด   
แบ่งลำดับขั้นการคิดสร้างสรรค์ เป็น 5 ขั้น
- ขั้นการค้นพบความจริง  เป็นขั้นเริ่มต้น  ค้นหาสาเหตุ
-ขั้นการค้นพบปัญหา  เป็นขั้นที่สามารถคิดได้ และเกิดความเข้าใจแล้วว่า ปัญหาคืออะไร
- ขั้นการตั้งสมมุติฐาน  เมื่อรู้ปัญหาว่าคืออะไรจากขั้นที่ 1 และ ขั้นที่ 2 แล้วก็พยายามคิดแก้ปัญหา หาทางออกโดยการตั้งสมมุติฐาน
- ขั้นการค้นพบคำตอบ  เป็นการค้นพบคำตอบจากการตั้งสมมุติฐานด้วยวิธีการต่างๆอย่างหลากหลาย
- ขั้นยอมรับผลจากการค้นพบ ค้นพบว่าสมมุติฐานที่ทดสอบไปในขั้นที่ 4 นั้น ได้ผลเป็นอย่างไรสรุปว่าสมมุติฐานใดคือการแก้ปัญหา หรือทางออกที่ดีที่สุด
สรุป
ทอร์แรนซ์ กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการของความรู้สึกไวต่อปัญหา  หรือสิ่งที่ขาดหายไป   แล้วเกิดความพยายามในการสร้างแนวคิด  ตั้งสมมุติฐาน  ทดสอบสมมุติฐาน   และเผยแพร่ผลที่ได้ให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจ  ทำให้เกิดแนวทางในในการค้นคว้าสิ่งแปลกๆใหม่ๆต่อไปขั้นความคิดสร้างสรรค์นี้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับขั้นการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์  ทอร์แรนซ์จึงเรียกขั้นการคิดสร้างสรรค์นี้ว่า กระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

ทฤษฎีความคิดสองลักษณะ
-เป็นทฤษฎีที่กำลังได้รับความสนใจ เพราะเป็นการค้นพบความรู้เกี่ยวกับการทำงานของสมองมนุษย์
-การทำงานของสมองสองซีก  ทำงานแตกต่างกัน
สมองซีกซ้าย   ทำงานส่วนของการคิดที่เป็นเหตุผล   ส่วนสมองซีกซ้ายที่เป็นส่วนของการคิดที่เป็นเหตุผล จะพัฒนาในช่วง 9-12 ปี  และสมองจะเจริญเติบโตเต็มที่เมื่อเด็กอายุ  11-13 ปี
สมองซีกขวา    ทำงานส่วนจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์  คือ...สมองซีกขวา ซึ่งเป็นส่วนของจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาได้มากในช่วงวัย 4-7 ปี   

ทฤษฎีพหุปัญญาของการ์ดเนอร์
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาการศึกษา  ชาวอเมริกันแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายของสติปัญญาผู้คิดค้นทฤษฎีพหุปัญญา ( ศักยภาพและความสามารถที่หลากหลายของมนุษย์ )
ทฤษฎีพหุปัญญา จำแนกความสามารถหรือสติปัญญาของคนเอาไว้ 9 ด้าน  ได้แก่
- ความสามารถด้านภาษา     เรียนรู้และเข้าใจคำพูดต่างๆได้เร็วเกินวัย              
- ความสามารถด้านตรรกวิทยาแลคณิตศาสตร์   มีความถนัดเรื่องคณิตศาสตร์ เข้าใจเรื่องตัวเลขได้เร็ว
- ความสามารถด้านดนตรี   ถนัดและเก่งดนตรี ชอบฟังเพลง  ร้องเพลง และจำเนื้อเพลงได้เร็ว           
- ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์   มีความสามารถในการเห็นภาพรวม
- ความสามารถด้านกีฬาและการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย   มีพฤติกรรมไม่อยู่นิ่ง  ชอบการวิ่งเล่น  ออกกำลังกาย เต้นรำ
- ความสามารถด้านมนุษยสัมพันธ์    ชอบบริการผู้อื่น  ช่างเอาอกเอาใจ ชอบช่วยเหลือเพื่อน
-  ความสามารถด้านจิตวิเคราะห์  ชอบเรียนรู้ ค้นคว้า วิจัย สามารถเขียนบันทึกประจำวันได้ดี
- ความสามารถด้านธรรมชาติศึกษา   ชอบเรียนรู้ธรรมชาติ / สิ่งแวดล้อมรอบๆตัว
- ความสามารถในการคิดพลิกแพลงแตกต่างในการแก้ปัญหา   คิดไว  มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาต่างๆได้ดี
ลักษณะสำคัญของทฤษฎีพหุปัญญา
-ปัญญา มีลักษณะเฉพาะด้าน
-ทุกคนมีปัญญาแต่ละด้าน ทั้ง 9 ด้านมากน้อยแตกต่างกัน
-ทุกคนสามารถพัฒนาปัญญาแต่ละด้านให้สูงขึ้นได้
-ปัญญาต่างๆสามารถทำงานร่วมกันได้
-ในปัญญาแต่ละด้าน ก็มีความสามรถหลายอย่าง

ทฤษฎีโอตา (AUTA)
เดวิส (Davis) และซัลลิแวน (Sullivan) ความคิดสร้างสรรค์นั้นมีอยู่ในมนุษย์ทุกคนและสามารถพัฒนาให้สูงขึ้นได้ การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ตามรูปแบบโอตา มีลำดับการพัฒนา 4ขั้นตอน ได้แก่ การตระหนัก ความเข้าใจ เทคนิควิธี และการตระหนักในความจริงของสิ่งต่างๆ
ขั้นตอนที่ 1 การตระหนัก  ต้องตระหนักถึงความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ที่มีต่อตนเอง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น
- การพัฒนาปรีชาญาณ
- การรู้จักและเข้าใจตนเอง
- การมีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
- การมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ขั้นตอนที่ 2 ความเข้าใจ  มีความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องต่างๆ
- ความรู้และเนื้อหาเรื่องบุคลิกภาพของบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์
- ลักษณะกระบวนการความคิดสร้างสรรค์
-ทฤษฏีความคิดสร้างสรรค์
- เทคนิค วิธีการฝึกความคิดสร้างสรรค์
ขั้นตอนที่ 3  เทคนิควิธี   การรู้เทคนิควิธีในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทั้งที่เป็นเทคนิคส่วนบุคคลและเทคนิคที่เป็นมาตรฐาน
- เทคนิควิธีการในการฝึกความคิดสร้างสรรค์
- การระดมสมอง
- การคิดเชิงเปรียบเทียบ
- การฝึกจินตนาการ
ขั้นตอนที่ 4  การตระหนักในความจริงของสิ่งต่างๆ  การรู้จักหรือตระหนักในตนเอง พอใจในตนเอง สามารถดึงศักยภาพมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง
- เปิดกว้างรับประสบการณ์ต่างๆ โดยปรับตัวอย่างเหมาะสม
- มีความคิดริเริ่มและผลิตผลงานด้วยตนเอง
- สามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงแนวทางในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม

พัฒนาการทางศิลปะ
วงจรของการขีดๆเขียนๆ
เคลล็อก (Kellogg)  ศึกษางานขีดๆเขียนๆของเด็กปฐมวัย และจำแนกขั้นตอนออกเป็น 4 ขั้นตอน ทำให้เข้าใจถึงความสำคัญของงานขีดๆเขียนๆทางศิลปะที่มีผลเชื่อมโยงกับพัฒนาการของเด็ก 4 ขั้นตอน มีดังนี้  ขั้นขีดเขี่ย  ขั้นเขียนเป็นรูปร่าง  ขั้นรู้จักออกแบบ และขั้นการวาดแสดงเป็นภาพ
ขั้นที่ 1 ขั้นขีดเขี่ย (placement  stage)  
-เด็กวัย 2 ขวบ
-ขีดๆเขียนๆตามธรรมชาติ
-ขีดเขี่ยเป็นเส้นตรงบ้าง โค้งบ้าง
-ขีดโดยปราศจากการควบคุม
ขั้นที่ 2 ขั้นเขียนเป็นรูปร่าง (shape  stage)
-เด็กวัย 3 ขวบ
-การขีดๆเขียนๆเริ่มเป็นรูปร่างขึ้น
-เขียนวงกลมได้
-ควบคุมมือกับตาให้สัมพันธ์กันมากขึ้น
ขั้นที่ 3 ขั้นรู้จักออกแบบ (design stage)
-เด็กวัย 4 ขวบ
-ขีดๆเขียนๆที่เป็นรูปร่างเข้าด้วยกัน
-วาดโครงสร้างหรือเค้าโครงได้
-วาดสี่เหลี่ยมได้
ขั้นที่ 4 ขั้นการวาดแสดงเป็นภาพ (pictorial stage)
-เด็กวัย 5 ขวบขึ้นไป
-เริ่มแยกแยะวัตถุที่เหมือนกับมาตรฐานของผู้ใหญ่ได้
-รับรู้ความเป็นจริง เขียนภาพแสดงถึงภาพคน/ สัตว์ได้
-ควบคุมการขีดเขียนได้ดี
-วาดสามเหลี่ยมได้

พัฒนาการด้านร่างกาย
กีเซลล์และคอร์บิน สรุปพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของเด็กปฐมวัย ตามลักษณะพฤติกรรมทางการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก ดังนี้
ด้านการตัด
- อายุ 3-4 ปี  ตัดกระดาษเป็นชิ้นส่วนได้
- อายุ 4-5 ปี  ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้  
- อายุ 5-6 ปี  ตัดกระดาษตามเส้นโค้งหรือรูปร่างต่างๆได้
การขีดเขียน
- อายุ 3-4 ปี  เขียนรูปวงกลมตามแบบได้
- อายุ 4-5 ปี  เขียนรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสตามแบบได้  
- อายุ 5-6 ปี  เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
การพับ
- อายุ 3-4 ปี     พับและรีดสันกระดาษสองทบตามแบบได้
- อายุ 4-5 ปี     พับและรีดสันกระดาษสามทบตามแบบได้  
- อายุ 5-6 ปี     พับและรีดสันกระดาษได้คล่องแคล่ว หลายแบบ
การวาด
- อายุ 3-4 ปี   วาดภาพคนมีศีรษะ ตา ขา ปาก
- อายุ 4-5 ปี    วาดภาพคนมีศีรษะ ตา ปาก จมูก ปาก ลำตัว เท้า
- อายุ 5-6 ปี    วาดภาพคนมีศีรษะ ตา ปาก ลำตัว เท้า จมูก แขน  มือ คอ  ผม

การประเมินหลังการเรียน
          ตนเอง  วันนี้เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจฟังอาจารย์สอนและที่อาจารย์อธิบายรายละเอียดต่างๆ มีการแสดงความคิดเห็นร่วมกับอาจารย์
           เพื่อน วันนี้เพื่อนๆเข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจฟังอาจารย์และแสดงความคิดเห็นต่างๆภายในชั้นเรียน
           อาจารย์ วันนี้อาจารย์เข้าสอนช้ากว่าเวลาเรียนนิดหน่อย และมีการปล่อยนักศึกษาช้ากว่าครึ่งชั่วโมง อาจารย์ให้คำแนะนำการทำผลงานอย่างชัดเจน คอยเดินดูเด็กขณะที่เด็กกำลังนั่งทำงาน ให้อิสระในการคิดของเด็กอย่างสร้างสรรค์